ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

อ้างว่าสร้างวิหาร รอเงินกฐินผ้าป่า...แต่เงินไม่เคยถึงผู้รับเหมาสักบาท!


http://suwankhom.blogspot.com/

เห็นโพสกฐินเมื่อคืน (แต่มีงานตั้งแต่ 27-28)
โดยไม่บอกจำนวนยอดเงินทำบุญกฐิน แต่บอกไว้ว่า กฐินนี้ จะนำไปทำพระวิหาร พระพุทธชินราชในธรรมสถานสุวรรณาภา ซึ่งจริงๆแล้ว พระวิหารพระพุทธชินราชในธรรมสถานฯ บอกบุญกันมานานแล้ว มีเจ้าภาพแล้ว มีบอกบุญมานานเป็นปีๆแล้ว และสร้างเสร็จนานแล้ว แต่กลับมาบอกว่าเงินกฐินครั้งนี้ จะนำไปสร้างวิหารพระพุทธชินราช แถมยังไม่บอกยอดเงินกฐินอีก (ขอย้ำว่า ซึ่งบอกบุญ และสร้างเสร็จไปนานแล้ว) ซึ่งเป็นเรื่องที่ซ้ำซ้อนอย่างมาก วิหารนี้บอกบุญเป็นปีๆ สร้างเสร็จนานเป็นปีๆแล้ว แต่กลับบอกว่าเอาเงินกฐินที่เพิ่งทอดนี้ไปทำ ฉะนั้นแท้จริงแล้ว เงินกฐินหายไปไหน? สังเกตุได้ว่า เมื่อมีกฐิน หรือผ้าป่า แต่ละครั้ง จากนั้นไม่นาน ไผ่ดำ มักจะไปต่างประเทศเสมอ โดยอ้างว่า เดินทางไปเพื่อหาวิชชาสุวรรณโคมคำตามแหล่งตามที่ต่างๆ ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก มาพัฒนามูลนิธิฯ และธรรมสถาน แต่ปรากฎว่า ที่ไปนั้นไม่เกี่ยวเลย ไม่เกี่ยวกับวิชชาเลย และไม่ได้มีการนำมาพัฒนามูลนิธิฯ หรือ ธรรมสถานฯ ใดๆ ทั้งสิ้น (ดูได้จากมูลนิธีฯ และธรรมสถานฯ ที่โทรมลงๆ ทุกวัน) ซึ่งมักจะอ้างเช่นนี้เสมอ เพื่อสร้างภาพไปต่างประเทศ หลังกฐินผ้าป่า เป็นประจำ แสดงว่า ไม่ได้ใช้เงินตัวเองไป! เพราะอ้างว่าไปเพื่อ สุวรรณโคมคำ แล้วไปหลังกฐินผ้าป่า เป็นประจำ ก็ชัดเจนว่า เอางบกฐินผ้าป่าใส่ย่ามตัวเองไปเที่ยวต่างประเทศ เสร็จจากการทอดกฐินผ้าป่าเมื่อไหร่ ก็ไป(เที่ยว) ต่างประเทศเมื่อนั้น โดยอ้างเอางบกองกลาง ไปสนองตัณหากิเลสตนเอง



ไผ่ดำ จะโกหก เช่นนี้เสมอ โดยเอาสุวรรณโคมคำบังหน้า บอกบุญชาวสุวรรณโคมคำ ว่าจะทำเพื่อมูลนิธิฯ และธรรมสถาน ของสุวรรณโคมคำ เพื่อชาวสุวรรณโคมคำตามปณิธานองค์กร แต่เงินกลับไปไม่ถึงมูลนิธิฯ และธรรมสถานของสุวรรณโคมคำอย่างที่ควรจะเป็น  แต่กลับไปสนองกิเลสตัณหาความสุข และการมีเครดิต การหน้ามีตา ของไผ่ดำ เขาโกหกเช่นนี้เสมอ โกหกสารพัดเรื่อง เช่นจำนวนรุ่นของรัตตัญญู ที่อ้างว่า เป็นการอบรมถ่ายทอดวิชชา ณ ธรรมสถาน จ.พิษณุโลก แท้จริงลวงพระไปทำงาน และไม่ได้ให้อะไร ไม่ได้สอนอะไรจริง แต่ถ่ายภาพมาแล้วประกาศ รุ่นนั้นรุ่นนี้ ทำปีละรุ่น แต่นับเพิ่ม ประกาศตัวเลขขยับปีละสองรุ่น โกหกชาวสุวรรณโคมคำ โกหกประชาชน โกหกคนไทย โกหกชาวพุทธ แม้กระทั่งรุ่นการเรียนที่เปิดสอนอยู่ที่มูลนิธิฯ ก็โกหก สร้างขึ้นมาเอง เจตนาให้คนเข้าใจผิดว่าตัวเองเก่าแก่ มีรุ่นมากกว่าใคร ฯลฯ


http://suwankhom.blogspot.com/


และแท้ที่จิง เงินทำบุญไม่เคยไปถึง ธรรมสถาน ดินแดนแห่งหุบเขาสุวรรณโคมคำ ดังที่กล่าวอ้าง เพราะชาวบ้านที่รับเหมาทำวิหารพระพุทธชินราช ยืนยันว่า ได้รับเหมาสร้างทำวิหารไปจนเสร็จสมบูรณ์นานแล้ว แต่จนบัดนี้ ก็ยังไม่เคยได้รับค่าจ้างรับเหมาตามตกลงกันไว้ จากไผ่ดำสักบาทเดียว เห็นมีการบอกบุญสร้างวิหารนับครั้งไม่ถ้วน แต่เขากลับไม่เคยได้รับเงินค่าจ้างรับเหมาสักบาทเดียว ชาวบ้านยากจน ผู้รับเหมาสร้างวิหารพระพุทธชินราชด้วยใจศรัทธา ยืนยันความจริงเป็นมั่นคงเช่นนี้ ไม่เพียงแค่นั้น ชาวบ้านรับเหมาผู้ยากจนคนนี้ ยังได้รับการบอกให้ไปทำการเกษตร ให้เต็มพื้นที่ธรรมสถานฯ เพื่อไม่ให้ธรรมสถานรกร้าง โดยแลกกันกับ ได้ทำผืนดินทำกิน ในธรรมสถานประทังชีวิต แต่เหตุการณ์กลับปรากฎว่า ไม่ได้รับเงินสนับสนุนใดใดสักบาทเดียว ทุกอย่างเค้าต้องออกเองทุกครั้งสิ้น เครื่องตัดหญ้าก็ต้องหาเอง น้ำมันก็ต้องซื้อเอง เครื่องพ่นสารเคมีและสารเคมีทุกอย่างก็ต้องออกเอง จ้างแรงงานคนมาช่วยทำการเกษตรเอง และให้ช่วยเก็บกวาดดูแลซ่อมแซมเสนาสนะทุกอย่างในธรรมสถานให้หมด และให้สามีภรรยาคู่นี้เข้ามานอนเฝ้าธรรมสถานด้วย หุงหากินเอง ให้ข้าวหมาแมวในธรรมสถานเอง สรุปแล้วให้ออกงบเองทุกอย่าง โดยทำการเกษตรเคมี ประทังชีวิตแบบชาวบ้านทั่วไป โดยไม่ได้รับการสนับสนุนใดใดทั้งสิ้น แต่มอบหมายภาระงานในการดูแลธรรมสถานทุกอย่าง ให้เป็นภาระรับผิดชอบ และเป็นค่าใช้จ่ายของ 2 สามีภรรยายากจนคู่นี้ จัดการเองทัง้หมด แต่ไผ่ดำกลับบอกบุญประกาศผลงาน ว่างบทำบุญเหล่านั้น ไดัถูกนำมาทำการเกษตร โดยวิธีธรรมชาตื ที่ไม่ใช้สารเคมี ตามแนวเกษตรพอเพียง ของในหลวง ตามโครงการของธรรมสถาน ที่ยื่นขออนุญาติไว้กับสปกพิดโลกทุกประการ

สรุปแล้วเงินทั้งหมดหายไปไหน


http://suwankhom.blogspot.com/


ซึ่งเงินที่บอกบุญมาตลอดหลายปี ไผ่ดำก็บอกว่าเอาไปใช้ในการพัฒนาธรรมสถาน แต่เงินไม่เคยถึงธรรมสถาน จนผู้นำชุมชนคนก่อน ทนไม่ได้ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนให้สปกเข้ามาตรวจธรรมสถาน และสปกก็ได้เข้ามาตรวจ เมื่อปีก่อน และออกใบเตือน ว่าจะเข้ายึดธรรมสถาน นำผืนดินไปจัดสรให้แก่เกษตรกรผู้ยากจน ตามนโยบายรัฐฯ เพราะธรรมสถานไม่มีการพัฒนาอะไรเลย
ตามโครงการที่ยื่นไว้กับสปก และตอนนั้นไผ่ดำ ก็ไปหลอกสปกเพื่อขอยืดระยะเวลาอีกระยะหนึ่ง เพื่อจะทำการพัฒนาตามโครงการที่ขออนุญาติก่อตั้งไว้ตั้งแต่ต้น แต่สุดท้ายก็โกหกอีก ตอนนี้ผู้นำชุมชนคนใหม่ของหมู่บ้าน ก็ทนไมไหวแล้วเช่นกัน เตรียมยื่นร้องเรียนสำทับกับสปก ให้เข้ามาตรวจยึดโดยไว และชาวบ้านผู้รับเหมาผู้ยากจน ก็พูดคุยและอัดเสียงไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นพยานในความจริงเหล่านี้ ยืนยันไปถึงสปกด้วย เพราะเขาก็ทนไม่ได้ และต้องการยุติเรื่องหลอกลวงเหล่านี้  และให้ราชการ เข้าตรวจยึดผืนดิน ธรรมสถาน มาจัดสรรแจกจ่าย ให้ถึงมือแก่เกษตรกร ผู้ยากจนที่แท้จิง ที่ทำกินอยู่จริงในผืนดินผืนนั้น ตามนโยบายสปกของรัฐสืบไป

http://suwankhom.blogspot.com/

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ภาพสมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธา

ภาพ สมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธา ภาพนี้ เป็นภาพที่ผมบูชามาตั้งแต่สมัยยุคแรกๆที่ผมเข้าไปเรียน ภาพนี้ปฐมาจารย์ฯ ท่านให้ช่างวาดขึ้นจากนิมิต แล้วปฐมาจารย์ท่านก็ให้พิมพ์แจกจ่ายให้หมู่ศิษย์บูชาได้ทั่วถึงกันเพื่อความเป็นสิริมงคลตั้งแต่ยุคต้นๆที่ท่านฟื้นฟู สุวรรณโคมคำ ขึ้นมา ภาพด้านหน้า ข้อความด้านหลังภาพสมเด็จฯ จะเห็นได้ว่าใครเป็นต้นตำรับแท้จริงที่ฟื้นฟูสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา ซึ่งในปัจจุบันนี้ปฐมาจารย์ฯท่านได้ให้ช่างสร้าง สมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธาในอิริยาบถนั่ง จากนิมิต โดยสร้างเป็นหุ่นขี้ผึ้งเท่าคนจริง และมีมวลสารเป็น หินจากรอยพระบาทของสมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธา ที่ท่านค้นพบในหุบเขาสุวรรณโคมคำ เป็นมวลสารด้วย ประดิษฐานไว้ให้หมู่ศิษย์ได้กราบไหว้เป็นสิริมงคลที่ชมรมศิษย์สุวรรณโคมคำอีกด้วย

หลักฐาน!! ไผ่ดำทุจริตล่อลวง!

คำเตือนจากรุ่นพี่ ที่เคยเรียนที่สุวรรณโคมคำ โพธิ์สามต้น บางกอกใหญ่ ยุทธไผ่ดำ ได้บิดเบือนประวัติสุวรรณโคมคำ ก๊อปปี้ผลงานคนอื่นมาปลอมแปลง จับแพะชนแกะ สร้างคัมภีร์สุวรรณโคมคำเก๊สารพัดรูปแบบ หลอกลวงประชาชน นำออกขายในราคาแพง ทำของปลอม อ้างชื่อสุวรรณโคมคำมาขาย แล้วยังซ้ำอ้างบุญมาบังหน้าว่าจัดพิมพ์ เพื่อจะเอาไปสร้างสถานปฏิบัติธรรมและส่งเสริมการปลูกสมุนไพรของมูลนิธิ เพื่อจูงใจให้ผู้คนยอมจ่ายในราคาแพงด้วยใจปีติในอานิสงส์ โปรโมทพิมพ์ออกขายสารพัดรูปแบบ สารพัดเล่ม สารพัดครั้ง ขายหมดเกลี้ยงเป็นจำนวนพิมพ์นับไม่ถ้วน โดยผู้ที่ซื้อไปหารู้ไม่ว่าเป็นตำราเก๊ที่ยุทธไผ่ดำขโมยก้อปปี้คนอื่น มาปลอมแปลงจนเละเทะ และอวยเป็นของตัวเอง แถมทุจริตยักยอกเงินบุญกุศล (ของผู้ไม่รู้เท่าถึงการณ์ทั้งหลาย) นั้นไปจนหมดสิ้น ไม่เคยนำเงินไปสร้างทำธรรมสถาน (โครงการปลูกสมุนไพรโดยวิธีธรรมชาติเกษตรอินทรีย์และเศรษฐกิจพอเพียงควบคู่คุณธรรมตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 และโครงการก่อสร้างอาคารโรงเรือนการเกษตรควบคู่ตึกกรรมฐาน เรือนกรรมฐานเขตอุบาสก เขตอุบาสิกา) ดังที่พิมพ์อ้างไว้เลย  ซึ่งธรรมสถานฯนั้น แท้จริงเป็นสถา...

โฉมหน้า ขบวนการลวงโลก

ตัวเองใส่ผ้าสีขาวสีเหลือง บอกว่าเป็นครูบาอาจารย์ แบบนี้น่ะเหรอ ครูบาอาจารย์ ที่คนเค้ากราบไหว้ยกย่องนับถือ เบื้องหลัง เน่าเละเฟะสิ้นดี!!! เสียทีที่เกิดมาเป็นคน!!! คนเหล่านี้ก็ล้วนร่วมขบวนการลวงโลกด้วยกันตั้งแต่สมัยนั้น (ถ้าอยากเห็นหน้าก็ไปดูได้ที่ สุวรรณโคมคำ โพธิ์สามต้น อยู่ฝั่งธน แถวๆวัดใหม่พิเรนท์ ถ.อิสรภาพ) แถมยังมาล่อลวงหมู่ศิษย์เป็นเหยื่อ เป็นเครื่องมือ ทำลาย สุวรรณโคมคำ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว เพื่อเงิน เพื่อลาภสักการะของตัว!!!! น่าสงสารหมู่ศิษย์ที่หลงกลตกเป็นเหยื่อที่ไม่รู้ว่าตนเป็นเหยื่อเสียจริง

วิชาถดถอย นี่หรือของจริง!!

ปี 2554 ใส่ความแย่งมูลนิธิไปได้ แต่กลับบอกว่าเป็นผลงานของตัวเอง ใส่ความว่าชมรมชั่วร้าย คนเลยน้อย ของแท้คนเยอะ คนรู้จักเยอะ กฎแห่งกรรมเริ่มทำงาน ตอนนี้ตรงข้ามกันเลย สิ่งที่ได้ไปแล้วเหลืออะไรบ้าง เรื่องรุ่นก็โกหก เป็นต้น แล้วมันจะมีอะไรจริง วิชาก็ไม่จริง อะไรๆก็ไม่จริง มันถึงได้หดไปๆๆๆ ภาคการเรียนที่ 1 ประจำปี 2560  โดย มูลนิธิ เขาทำไงก็ได้ ให้คนศรัทธาเขา ให้ดูเหมือนว่าเขารู้จริง สร้างภาพ แต่ความเป็นจริงนั้นไม่ใช่ เค้าทำอะไรก็ได้เพื่อผลประโยชน์ คือหลอกลวงผู้คน ใครก็ได้ ซึ่งการเป็นมูลนิธิไม่ใช่อย่างนี้ #ไผ่ดำ เนี่ย ไม่ใช่ผู้ก่อตั้ง สุวรรณโคมคำ ไม่ใช่ต้นตำรับ สุวรรณโคมคำ ไม่ใช่ผู้รู้จริง ไม่ใช่ผู้ฟื้นฟู ไม่มีอำนาจในการฟื้นฟู ไม่มีอำนาจในการประสิทธิ์ เป็นแค่คนพิมพ์คอมพิวเตอร์ ทำหนังสือ ไม่ใช่คนรู้จริง เอาการค้นคว้าของคนอื่นมาใส่ชื่อ และเอาผลงานของคนอื่นมาใส่ชื่อเป็นของตัวเอง พอเอาไปสอนก็ไม่แตกฉาน วิชาต่างๆก็ไม่งอกเงย ยังแต่จะถดถอย ทั้งที่แย่งอาจารย์ สุวรรณโคมคำ ไปเป็นสิบๆในสมัยนั้น (เกือบยี่สิบเห็นจะได้) และนักเรียนในสมัยนั้นๆ หลายๆร้อยนับเป็นพันก็ว่าได้ จนตอนนี้เหลืออาจารย์...

คำเตือนจากรุ่นพี่ ที่เคยเรียนที่สุวรรณโคมคำ โพธิ์สามต้น บางกอกใหญ่

คำเตือนจากรุ่นพี่ ที่เคยเรียนที่สุวรรณโคมคำ โพธิ์สามต้น บางกอกใหญ่ ยุทธไผ่ดำ ประธานมูลนิธิ ได้บิดเบือนพุทธพจน์ ก่อกรรมสร้างเวร หลอกลวงชาวพุทธ หลอกลวงประชาชน สร้างคัมภีร์เท็จ คำสอนเท็จ นอกรีต ปลอมปนเข้าไว้ในพระพุทธศาสนา ประกาศล่อลวงไปในวงกว้าง โดยอ้างเดรัจฉานวิชา มาเป็นคำสอน เป็นคัมภีร์ในพระพุทธศาสนา ประกาศจัดคอร์สเปิดสอนหลอกลวงประชาชน โดยมีเทคนิคล่อลวงเงินสารพัด เช่น ประกาศจัดไหว้ครูเก็บค่าเรียนไปก่อน แล้วไม่เปิดสอนวิชานั้นๆให้ อ้างว่าจำนวนนักเรียนไม่พอเปิดบ้าง หรือรอนัดหมายบ้าง แล้วก็เชิดเงินไปเลย, จัดผ้าป่าทำบุญต้อนรับเปิดเรียน เสร็จแล้วท้ายคอร์สก็บอกบุญจัดผ้าป่าทำบุญปิดคอร์สซ้ำอีก , แจกกระปุกออมสินพลาสติกรูปบาตรพระ รูปสามเณร ฯลฯ ให้ลูกศิษย์ไปหยอดเงินสะสมทุกวันที่บ้าน อ้างว่าเป็นการใส่บาตรทำบุญประจำวันทุกวัน เมื่อเต็มแล้วให้แกะกระปุก หรือยกกระปุกนำมาทำบุญกับยงยุทธไผ่ดำ เพื่อเป็นการวัดผลให้ผ่านเกณฑ์ได้รับใบประกาศฯ , ทำบูรพาจารย์เป็นพระผงพระเหรียญให้เช่าบูชา แค่ทำพิธีหลอกตาชาวบ้านคล้ายๆว่าปลุกเสก ทั้งๆที่ตัวเองก็ปลุกเสกไม่เป็น, ทำบูรพาจารย์เก๊เป็นองค์ยืนให้เช่าบูชา ท...

สุวรรณโคมคำ โพธิ์สามต้น เมคจำนวนรุ่น โกหก สร้างศรัทธาหลอกลวงประชาชน

จากที่ผมเห็นคุณ Adisorn โพสต์ถามเข้าไปใน Facebook มูลนิธิสุวรรณโคมคำ ( https://www.facebook.com/profile.php?id=755747701133181&ref=br_rs ) ผมตั้งใจว่าจะเข้าไปพิมพ์ตอบอยู่แล้ว แต่เขา (ทางมูลนิธิ ดังกล่าว) ลบไปเสียก่อน ดังนั้น ผมขอตอบในที่ตรงนี้แล้วกันครับ (ผมเป็นศิษย์เก่าของทางชมรมฯ ตั้งแต่สมัยยุครุ่งเรือง ที่ปฐมาจารย์เกษตรเพชรสร้างทำนำพามา ก็เลยได้รู้เห็นความจริงและความเป็นไปต่างๆ มาตั้งแต่นั้น ถึงแม้ปัจจุบันจะไม่ได้เข้ามาเรียนแล้ว แต่ก็ยังติดตามข่าวสารของทางชมรมฯ และมูลนิธิฯอยู่เสมอ เพื่อช่วยเหลือชาวสุวรรณโคมคำด้วยกัน ไม่ให้หลงตกเป็นเหยื่อมูลนิธิ เพราะถ้าไม่ใช่คนเก่าจริงๆ ไม่ใช่คนที่ติดตามต่อเนื่องยาวนานจริงๆ เห็นทีจะตกหลุมหลงกลมูลนิธิแน่ๆ ผมจึงได้หาความจริง หลักฐานมาเปิดเผยยืนยันถึงความเป็นตัวจริงของทางชมรมฯ ไม่ใช่ตัวปลอมอย่างมูลนิธิฯ! และพอดีคุณ Adisorn ถามมา ผมยิ่งคันไม้คันมือคันปากเป็นที่สุด ดีใจที่มีคนเริ่มเห็นถึงความผิดปกติ ความไม่ชอบมาพากล ความเจ้าเล่ห์ปลิ้นปล้อนลวงโลกของมูลนิธิ กะจะไปตอบในหน้าเฟสบุ๊ค ก็ไม่ทันซะแล้ว เลยขอยกมาตอบตรงนี้เลยแล้วกัน) จากที่คุณถ...

ปลอมแปลง ลวงโลก ยกตน

เรื่องลำดับสายบูรพาจารย์นั้นมีจริงอยู่ แต่มันไม่ได้มาถึงไผ่ดำ กลับแต่งขึ้นเพื่อโยงเข้าตัวเองทั้งนั้น เอาผลงานคนอื่นมาสร้างภาพ แล้วดรอปลง ถดถอยลง ผลงานมูลนิธิก็เท็จ เรื่องรุ่นก็เท็จ สร้างภาพ โกหก หลอกลวง มันทุกเรื่อง ของจริงอยู่ไหน แล้ววิชาที่ว่าต้นตำหรับ ไหงถึงได้หดลงๆๆๆ   ผลงานก็เห็นๆกันอยู่ทนโท่ นี่น่ะเหรอ คนที่เอาชื่อมาอยู่ในสายเส้นทาง คัมภีร์มหาจักรพรรดิราช ของ สุวรรณโคมคำ แบบนี้น่ะเหรอ คนที่บอกว่าตัวเองคู่ควร!!! ไม่อายฟ้าอายดิน กล้ายกตนเทียบรัศมีเหล่าบูรพาจารย์ หน้าหนาหน้าทน ซีเมนต์ยังเรียกทวด!!! ผู้ที่มีบารมี สั่งสมมาภพชาติไม่ถ้วน เค้าไม่ได้ต้องมาบอกชาวบ้านหรอกว่าเค้าเป็นนั่นเป็นนี่ เค้ามีสิ่งยืนยันมาติดตัวอยู่แล้ว เป็นสัญลักษณ์ประจำตัว เหมือนมรดกนั่นแหละ แต่นี่เป็นใคร แค่คนธรรมดา กลับยกตน ปลอมแปลงข้าวของบอกว่านี่เป็นสัญลักษณ์ นั่นนี่โน่น พูดจนคนหลงลม ปรักปรำผู้มีอำนาจที่แท้จริง ผู้สืบทอดที่แท้จริงแบบนี้ นรกภูมิเบื้องล่างเตรียมทางโล่งๆให้ผู้หลงตน แบบนี้แน่ๆ ตราบใครที่ยังหลงโมหะแบบนี้ น่าสังเวชเสียจริง ข้อมูลจากชมรม (ด้านล่าง)

สุวรรณโคมคำ โพธิ์สามต้น แอบอ้างผลงาน เรื่องใบลดหย่อนภาษี

ยกตัวอย่างเรื่องการโกหกลวงโลก ที่ทาง # สุวรรณโคมคำ_โคมคำ_โพธิ์สามต้น ได้กล่าวอ้างไว้ถึง “บันทึกลำดับเหตุการณ์สำคัญ 12 ปี ของมูลนิธิสุวรรณโคมคำ” เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2559 บนหน้า facebook อย่างภาคภูมิใจโดยไม่อายต่อบาปหรือกฎแห่งกรรม เช่น เรื่องการออกใบลดหย่อนภาษี ให้กับผู้บริจาคได้เป็นครั้งแรก ไว้ว่า “พ.ศ. 2554 ปีสะสางปัญหาและจัดสรรมูลนิธิใหม่ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นช่วงแก้ปัญหาและจัดระเบียบองค์กรใหม่ โดยอาจารย์เสาวนีย์ เทพพิทักษ์ เข้ามาเป็นประธานมูลนิธิ นำพาคณะจัดสรรองค์กร จนปัญหาคลี่คลาย และ นำไปสู่การออกใบลดหย่อนภาษีให้กับผู้บริจาคได้เป็นครั้งแรก ” ซึ่งอันที่จริงโกหกทั้งเพ!!! ความเป็นจริงในตอนนั้น มูลนิธิฯ ที่ดำเนินงาน นำพา พาทำ โดยปฐมาจารย์เกษตรเพชร ท่านได้เดินเรื่องการยื่นขอมาก่อนหน้านั้นแล้ว ซึ่งการยื่นผลงานและขออนุญาตต่อทางราชการในเรื่องใบลดหย่อนภาษีดังกล่าว โดยหลักการเบื้องต้น องค์กรที่จะขออนุญาตจะต้องมีผลงานที่พิสูจน์ที่ยื่นต่อทางราชการอย่างต่อเนื่องมาหลายปี คิดง่ายๆก็ 3 ปี จึงจะได้รับการอนุญาต การออกใบลดหย่อนภาษีให้กับหน่อยงานหรือองค์กรการกุศลนั้นๆ ...