ยกตัวอย่างเรื่องการโกหกลวงโลกที่ทาง #สุวรรณโคมคำ_โคมคำ_โพธิ์สามต้น ได้กล่าวอ้างไว้ถึง “บันทึกลำดับเหตุการณ์สำคัญ 12 ปี ของมูลนิธิสุวรรณโคมคำ” เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2559 บนหน้า facebook อย่างภาคภูมิใจโดยไม่อายต่อบาปหรือกฎแห่งกรรม เช่น เรื่องการออกใบลดหย่อนภาษีให้กับผู้บริจาคได้เป็นครั้งแรก ไว้ว่า
ซึ่งอันที่จริงโกหกทั้งเพ!!! ความเป็นจริงในตอนนั้น มูลนิธิฯ ที่ดำเนินงาน นำพา พาทำ โดยปฐมาจารย์เกษตรเพชร ท่านได้เดินเรื่องการยื่นขอมาก่อนหน้านั้นแล้ว ซึ่งการยื่นผลงานและขออนุญาตต่อทางราชการในเรื่องใบลดหย่อนภาษีดังกล่าว โดยหลักการเบื้องต้น องค์กรที่จะขออนุญาตจะต้องมีผลงานที่พิสูจน์ที่ยื่นต่อทางราชการอย่างต่อเนื่องมาหลายปี คิดง่ายๆก็ 3 ปี จึงจะได้รับการอนุญาต การออกใบลดหย่อนภาษีให้กับหน่อยงานหรือองค์กรการกุศลนั้นๆ ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ ก็ไปขอปุ๊บจะได้มาปั๊บ ทางการเค้าดูว่าองค์กรนั้นๆ มีประโยชน์ ให้คุณจริงต่อส่วนรวมหรือเปล่า ถ้าจริง ถึงจะให้
จากหลักฐานหนังสือด้านบน ทางราชการได้ออกประกาศให้ มูลนิธิสุวรรณโคมคำ เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ได้รับการยกเว้นภาษี อันมีผลเริ่มบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2552 ตามประกาศกระทรวงการคลังฉบับที่ 408 ที่ได้ลงในหนังสือราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๑๒๗ ตอนพิเศษ ๑ ง หน้า ๖๙ ลงวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๓
ดูหลักฐานได้ที่ http://www.rd.go.th/publish/2644.0.html
คุณๆ ลองย้อนวันกันดูนะ ว่าวันที่ประกาศนั้นมีผล คือ เป็นวันที่ 21 ตุลาคม 2552 ซึ่งถ้ายื่นผลงานต่อเนื่องมา 3 ปี คิดย้อนไปก็แสดงว่าทางมูลนิธิได้ยื่นผลงานมาตั้งแต่ปี 2550 เป็นอย่างช้า ซึ่งปี 2548 มูลนิธิเพิ่งก่อตั้ง และในสมัยนั้นเองปฐมาจารย์เกษตรเพชรเป็นประธานมูลนิธิสุวรรณโคมคำมาตั้งแต่ปี 2548 ถึงต้นปี 2554 ดังนั้น ผลงานที่รุ่งเรื่องตลอดมา สะสมมาหลายๆ ปีในตอนที่เพิ่งเริ่มต้นมูลนิธิ ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นของปฐมาจารย์เกษตรเพชร ไม่ได้เป็นผลงานของไผ่ดำอย่างที่แอบอ้างในเฟสบุ๊ค แถมที่ประกาศโครมๆ ว่า ปี 2554 เพิ่งจะได้ออกใบลดหย่อนภาษีครั้งแรกนั้น โม้ทั้งเพ!!
จะกล่าวอีกอย่างก็คือว่าผลงานการออกใบลดหย่อนภาษีให้กับผู้บริจาคนั้นไม่ได้เป็นผลงานที่เกิดจริงขึ้นในปี 2554 ที่ อาจารย์เสาวนีย์ เทพพิทักษ์ เข้ามาเป็นประธานมูลนิธิในช่วงนั้นแต่อย่างใด
ขนาดเห็นหลักฐานทนโท่ขนาดนี้ ยังจะหน้าหนาหน้าทน อยากจะบอกว่า พวกนี้มีหน้าด้านใส่ความเท็จ ปรักปรำปฐมาจารย์เกษตรเพชรมาตั้งแต่ปี2553แล้ว ทั้งใส่ความ หลอกลวงล่อลวง โกงทุกอย่าง ขโมยทุกอย่าง โกหกทุกอย่าง ซ้ำยังนำผลงานของปฐมาจารย์เกษตรเพชร มูลนิธิ ธรรมสถาน เป็นต้นตำรับวิชา อำนาจในการประสิทธิวิชา ฯลฯ มาเป็นของตน!!
อ้อ จะว่าไปเรื่องจริงอยู่นิดนึงก็คือที่บอกว่าปี 2553 เป็นยุคมืดนั้น ก็มืดจริง แต่ที่มืดก็เห็นชัดอยู่ว่ามันมืดมาจากภายในจิตใจของคน จนแผ่รังสีความมืดมิดออกมาถึงภายนอกให้เห็นจะเรียกว่าดำก็ได้นะครับ
และนี่ก็เป็นเพียงตัวอย่างเพียงเล็กน้อยของการโกหก หลอกลวง และบิดเบือนของ #สุวรรณโคมคำ_โคมคำ_โพธิ์สามต้น ยังไม่นับรวมกับสิ่งที่ทาง #สุวรรณโคมคำ_โคมคำ_โพธิ์สามต้น ยกขึ้นมาอ้างเอง โดยปราศจากความจริง
แล้วชาวสุวรรณโคมคำจะปล่อยให้เป็นอย่างนี้เหรือ ทั้งที่ตนใฝ่ดีในสุวรรณโคมคำ พอคุณทราบข้อมูลแบบนี้ คุณก็ลองตรองๆดูเอา ว่าคุณจะเลือกสิ่งที่ถูกต้องหรือจะหลงวาทะคนแล้วทำบาปต่อเนื่องต่อไป ลองใช้สติปัญญาตรองดูเอาเถอะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น